ใครที่แพ้ทางภาษาอังกฤษ ลองใช้ทริคเดาข้อสอบภาษาอังกฤษแบบขั้นเทพตามนี้ดูนะ เป็นการเดาแบบมีหลักการ เผื่ออ่านไม่ทัน อ่านไม่เข้าใจ หรือกลัวทำไม่ทัน! ก็เผื่อไว้ก่อน!!!
• ตัดช้อยส์เพิ่มโอกาส
ถ้าตัดช้อยส์เป็น ก็มีโอกาสตอบถูกถึง 50% เลยนะ แนะนำให้อ่านแล้วตัดช้อยส์ที่น่าจะผิดมากที่สุดออกก่อน เช่น ถ้าข้อนั้นมีช้อยส์ไม่เข้าพวกแค่ข้อเดียว มีโอกาสที่ช้อยส์นั้นจะผิด ตัดออกไปได้เลยค่ะ, ไม่ควรเลือกข้อที่คำตอบสั้นมากเกินไป และในพาร์ทสนทนา ให้เลือกตอบข้อที่ใช้ภาษาทั่วไปแบบภาษาพูด ไม่ใช่ภาษาทางการ, ช้อยส์ที่มีคำซ้ำกับเนื้อเรื่องและโจทย์เยอะๆ มักผิด, ช้อยส์ที่แปลได้แบบตรงเป๊ะๆ มักผิด เป็นต้น
• ดูคำแรกของประโยคคำถาม
ทริคนี้ง่ายมาก ให้เราสังเกตคำแรกในคำถามค่ะ เช่น ถามว่า “Who is speaking in text ?” คำขึ้นต้นคือ Who ดังนั้น คำตอบที่ถูกคือต้องเป็นคน ถ้าขึ้นต้นด้วย When คำตอบที่ถูกต้องจะเกี่ยวกับช่วงเวลา เป็นต้นค่ะ
• จับคู่คำเชื่อมให้แม่น
เพราะคำเชื่อมเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ออกข้อสอบบ่อยมากๆ ทั้งคำเชื่อมที่แสดงความขัดแย้ง คำเชื่อมที่บอกเหตุผล หรือคำเชื่อมที่มาเป็นคู่ๆ เช่น Both…And หรือ Either…Or ดังนั้น ถ้าในประโยคแรกมีคำนี้โผล่มา ประโยคถัดไปก็จะต้องเป็นคู่ของมันค่ะ
• สังเกตเครื่องหมาย
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องหมาย Comma (,), Colon (:), Semicolon (;), Dash (-) และ Parenthesis ( ) เพราะหลังเครื่องหมายมักเป็นส่วนขยาย ซึ่งอาจช่วยเราขยายความหมายของศัพท์ที่เราไม่รู้ได้ เช่น เครื่องหมาย Comma ทำหน้าที่ขยายประโยคต่อไป, เครื่องหมาย Colon ทำหน้าที่ขยายเหตุผลต่างๆ, เครื่องหมาย Semicolon ทำหน้าที่ขยายเหตุผลเพิ่มเติมจากประโยคแรก เป็นต้น
• เช็กตำแหน่ง
ดูว่าหน้า-หลังของช่องคำตอบคือคำประเภทไหน เช่น ช่องคำตอบอยู่หลัง a คำตอบก็อาจเป็นคำนาม หรือคำ Adj. ก็ได้ ทีนี้เราก็ต้องมาดูคำหลังช่องคำตอบอีกที ถ้าหลังช่องว่างเป็นคำนาม คำตอบก็ต้องเป็น Adj. ดังนั้น สิ่งที่เราต้องรู้ถ้าจะใช้ทริคนี้ก็คือ ต้องรู้ประเภทของคำค่ะ
• เดาจากคำศัพท์
ยิ่งรู้คำศัพท์มาก ยิ่งได้เปรียบ แต่ถ้าเจอคำศัพท์ที่ไม่รู้ความหมาย เราต้องใช้เทคนิคการเดาศัพท์ โดยดูจากข้อความในบริบทโดยรอบ แล้วเดาความหมายที่น่าจะเป็นไปได้ค่ะ
อ้างอิงภาพและข้อมูลจาก : Pinterest, interpass.in.th